สารพันคุณค่าใน “ขมิ้น”
ไม่เพียงอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุแต่ยังมีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคต่างๆได้ มากมาย
ขมิ้น ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรสุดป๊อป ที่เอ่ยชื่อมาใครก็รู้จัก อย่างน้อยก็ต้องพอบรรยายลักษณะได้ ว่าหน้าตาคล้ายขิง มีเนื้อสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์
ที่ผ่านมาขมิ้น มักนิยมนำไปใช้ประกอบอาหาร เพื่อแต่งสี แต่งกลิ่น โดยเฉพาะอาหารใต้ เช่น แกงเหลือง แกงไตปลา แกงกะหรี่ ไก่ทอดขมิ้น เป็นต้น ซึ่งขมิ้นมีคุณประโยชน์แฝงอยู่มากกว่าที่คิด เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อาทิ วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ต่าง ๆ รวมไปถึงเส้นใย คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน เป็นต้น จึงมีสรรพคุณทางยาที่รักษาอาการและโรคต่าง ๆ ได้หลายชนิด
ขมิ้นไม่เพียงมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ โรคที่เกิดจากการอักเสบหลายชนิด เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ แต่ยังมีการศึกษา พบว่า ขมิ้นมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินอี 80 เท่า จึงนำมาใช้ในโรคที่คาดว่าจะเกิดจากอนุมูลอิสระ อาทิ โรคมะเร็ง อัลไซเมอร์ และโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะโรคมะเร็งนั้น มีงานวิจัยที่ช่วยยืนยันผลของขมิ้นในการต้านการเจริญเติบโตของมะเร็งหลายชนิด อาทิ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปากมดลูก
นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณ บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยต้องได้รับขมิ้นติดต่อกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ โดยในขมิ้นจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยลดแก๊สในทางเดินอาหาร ลดการหลั่งกรด เพิ่มการหลั่งของสารที่มาช่วยเคลือบทางเดินอาหารไม่ให้ถูกทำร้ายจากกรด มีฤทธิ์ช่วยขับน้ำดี ซึ่งน้ำดีมีความจำเป็นในกระบวนการย่อยของไขมัน แต่ในผู้ป่วยที่มีท่อน้ำดีอุดตันแนะนำว่าไม่ควรกินขมิ้น เพราะอาจจะทำให้น้ำดีหลั่งออกมามาก แล้วเกิดการตกตะกอนในถุงน้ำดี อาจทำให้อุดตันมากยิ่งขึ้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น