เพิ่มเงินออมด้วยการประหยัด
ในภาวะที่เศรษฐกิจตกสะเก็ด ข้าวของแพงไปหมด แต่เรายังได้เงินเดือนเท่าเดิม อ้าว! แล้วจะทำยังไงดี ถึงจะมีเงินออม?
วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้มีเงินออม ซึ่งคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือ “การประหยัด” เพราะหากคิดใน
แง่บวกแล้วการประหยัดก็เหมือนกับเราได้เงินเดือนเพิ่มเหมือนกัน เพราะช่วยให้เงินออมหรือเงินเก็บที่เราสะสมไว้เพิ่มมากขึ้นไงล่ะ
ก่อนที่จะเพิ่มเงินออมด้วยการประหยัดได้ เราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันของเราด้วย 5 เคล็ดลับต่อไปนี้
1.ละเลิกพฤติกรรม รายได้ต่ำ รสนิยมสูง
พยายามหลีกเลี่ยงการช็อปปิ้งของแพงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือรองเท้าแบรนด์เนม ถ้าตราบใดที่เรายังไม่เลิกพฤติกรรมสุรุ่ยสุร่ายเหล่านี้ เงินเดือนมีเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้แน่นอน แล้วจะมีเงินเก็บได้อย่างไร ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหันมาใช้ของที่ราคาถูกกว่าของแบรนด์เนมทั้งหลาย แต่คุณภาพเท่าเทียมกันดูสิ แล้วลองคำนวณดูเล่นๆ จะเห็นเลยว่าสามารถประหยัดเงินไปได้เยอะเลย
2.เลิกนิสัยเอาอย่างคนอื่น
ไม่ใช่ว่าพอไปเห็นเจ้าของคอนโดห้องข้างๆ มีทีวีแอลอีดีจอแบนรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วเกิดอาการทนไม่ได้ ต้องไปซื้อทีวีจอแบนรุ่นนี้มาใช้บ้าง แหม คนอื่นมี ฉันก็ต้องมี...ถ้ายังคิดเอาอย่างคนอื่นแบบนี้ละก็ จำไว้เลยว่าชีวิตคุณจะมีแต่จ่ายกับจ่าย เพราะคุณจะใช้เงินซื้อของที่ไม่จำเป็นจนเงินไม่เหลือเก็บ จงเตือนสติตัวเองไว้ว่า ให้เป็นอยู่อย่างที่เราควรจะเป็นดีกว่า
3.รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
การดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็เป็นการประหยัดอีกแบบหนึ่ง นั่นคือ ประหยัดค่ารักษาพยาบาลไงล่ะ วิธีง่ายๆ ก็คือ กินอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเมนูที่ราคาแพงเวอร์ เพราะบางครั้งของแพงก็ใช่ว่าจะให้คุณค่าทางโภชนาการต่อร่างกายเสมอไป บางครั้งอาจเป็นโทษด้วยซ้ำ เพราะกลับไปเพิ่มไขมันในเส้นเลือด หรือก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย หัดกินผักและอาหารแบบไทยๆ บ้าง เช่น แกงเลียง น้ำพริกผักต้ม ฯลฯ ซึ่งให้ประโยชน์กับร่างกายมากกว่าหมูหันหรือเป็ดปักกิ่งซะอีก
4.หลีกเลี่ยงการเป็นหนี้
มีคำคมที่ไม่เคยเชยเลยสักยุค นั่นคือ “อย่าอยู่อย่างอยาก” เดี๋ยวอยากได้โน่น เดี๋ยวอยากได้นี่ ในที่สุดก็ต้องเป็นหนี้จนได้ แทนที่จะลดรายจ่ายลง กลับเพิ่มหนี้ขึ้นมาเฉยเลย ซึ่งหากเราระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายและกินอยู่อย่างพอเพียง ไม่ว่าจะได้เงินเดือนมากน้อยแค่ไหนก็เหลือเก็บได้ เชื่อสิ
5.ปฏิเสธการเป็นผู้ค้ำประกัน
นอกจากหลีกเลี่ยงการกู้หนี้ยืมสินแล้ว การเป็นนายหน้าค้ำประกันให้คนอื่นก็ไม่ควรกระทำเด็ดขาด เพราะนั่นเท่ากับว่าเรากำลังเป็นหนี้เหมือนกัน ถ้าคนที่เราค้ำประกันให้ไม่จ่ายหรือเบี้ยว ก็คนค้ำประกันนี่แหละที่ต้องรับภาระมาเต็มๆ ฉะนั้นการหลีกเลี่ยงการค้ำประกันจึงถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคตอย่างหนึ่ง
เพิ่มเงินออมด้วยการประหยัด






0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น